29/5/58

รีวิว : IELTS (UKVI) แบบใหม่จากประสบการณ์ตรง มันต่างจากเดิมยังไงบ้าง

นับว่าปีนี้เป็นอีกปีที่วงการการเรียนต่ออังกฤษมีการเปลี่ยนแปลงแบบที่คนจะไปเรียนต่องงไปเลย เพราะประกาศเปลี่ยนเกณฑ์ IELTS ออกมาปุบปับช่วงที่หลายๆ คนกำลังเตรียมตัวสอบ ซึ่งการสอบ IELTS ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับใครที่จะไปอยู่ประเทศอังกฤษระยะยาว จากที่เดิมเลือกแค่ว่า Academic หรือ General ตอนนี้มีให้เลือกด้วยว่าจะสอบแบบ UKVI หรือเปล่า

โดยการสอบรูปแบบใหม่นี้จะต่างจากเดิม สิ่งแรกที่ต่างคือ ราคา!!  55555 ล้อเล่นนะ แต่เรื่องจริง แพงขึ้นมาก ระบบเดิม Academic ประมาณ 6,000 กว่า ส่วนนี่ราคาใหม่ รู้สึกจะเท่ากันทั้ง British Council และ IDP ไม่มีความเหลื่อมล้ำแบบแต่ก่อนล้าววว
UKVI – IELTS Academic [10,440 บาท]

UKVI – IELTS General [10,440 บาท]

UKVI – Life Skills A1 [7,830 บาท]

UKVI – Life Skills B1 [7,830 บาท]

ทีนี้คำถามสำคัญคือใครบ้างหล่ะ ที่จะต้องสอบแบบ UKVI หลักๆ คือ ถ้าแบบ Academic ก็สำหรับคนที่จะไปเรียนต่ำกว่าปริญญาตรี เช่นอนุปริญญา หลักสูตร Foundation หรือหลักสูตร Pre-sessional ส่วนแบบอื่นๆ สำหรับคนที่ต้องการขอวีซ่าไปอังกฤษระยะยาว เช่น ติดตามคู่สมรสไป

ใครไม่ได้จะใช้ขอวีซ่าอังกฤษ เช่น ใช้ยื่นหลักสูตรอินเตอร์ในไทย หรือใครมั่นใจว่าสอบผ่านแน่นอนไม่ต้องเรียนพรี ก็แนะนำว่าไม่ต้องสอบแบบใหม่ให้สิ้นเปลืองเงินก็ได้นะ เพราะข้อสอบชุดเดียวกัน คือตอนแรกที่รู้นี่แอบแซวว่าจ่ายเยอะกว่า ปล่อยเกรดเปล่า 5555 (#ผิด!!)

ต่อไปก็ขอเล่าประสบการณ์ เราสมัครแบบ Academic ของ British Council ทางออนไลน์ เพราะถูกกว่าไปเอง (เหตุผลด้านเศรษฐกิจล้วนๆ) โดยตอนสมัครก็เตรียมรูปถ่ายของเรา และข้อมูลส่วนตัวจากบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตให้พร้อม แต่ไม่ต้องใช้รูปถ่ายบัตรประชาชนแล้ว

ข้อมูลพร้อมแล้วก็ไปสมัครที่เว็บนี้ http://takeielts.britishcouncil.org/locations/thailand  อันบนแบบเดิม อันล่าง UKVI (แบบใหม่) ตอนสมัครตั้งสติกดให้ถูกอันนะ เช็คได้อีกทีตอนจะกดจ่ายเงินว่าราคาใช่อันที่เราตั้งใจสมัครไหม

สมัครเสร็จก็เตรียมตัวอ่านหนังสือนู่นนี่ไป ทางบริติชแนะนำเพจนี้มา https://th-th.facebook.com/ieltsbcthailand ขอสารภาพว่าตอนเราสอบไม่ได้ดูหรอก อ่านไม่ทัน มาสมัครเอาวันท้ายๆ แต่ดูแล้วเนื้อหาน่าสนใจมากเลยเอามาลงไว้ คนอื่นจะได้ไม่พลาดแบบเรา

พอถึงวันสอบ สิ่งสำคัญที่ต้องเอาไปนอกจากดวงก็คือ สำเนาบัตรประชาชน*** ขอย้ำด้วยดอกจันล้านดอก เพราะเกือบทุกคนไม่รู้จ้า เลยไม่ได้เอาไป ต้องไปเสียค่าซีรอกซ์ 7 บาทต่อหน้า เป็นอะไรที่ฮือฮามาก (กับราคาอัน...) ที่เราต้องพกไปด้วยเพราะระบบไม่ได้ให้เราอัพสำเนาบัตรตอนสมัคร ถึงเราจะล็อกอินเข้าไปอัพทีหลังก็ต้องพกไปอยู่ดี 

อีกอย่างที่เจ้าหน้าที่ที่สยามบอกให้พิมพ์ออกมาคือใบเสร็จ แต่พอไปถึงสนามสอบไม่ได้ใช้นะ ไม่มีใครเรียกดู ถึงยังงั้นก็มีประโยชน์คือไว้เช็คข้อมูลของเราได้แหละ ว่าสอบที่ไหน ใครเลือกที่กรุงเทพน่าจะได้สอบที่โรงแรม Landmark ถ้ามา BTS ก็ง่ายเลย ลงสถานีนานา ออก EXIT 2

การสอบ IELTS เริ่ม 9:00 แต่เขาจะนัด 8:00 ก็เผื่อเวลาหน่อย เพราะมาถึงจะต้องเช็คชื่อเราจากบอร์ดว่าลำดับที่เท่าไหร่ นั่งตรงไหน ใครมีของก็ฝากของ ห้ามนำทุกสิ่งเข้า ยกเว้นตัวกับเสื้อผ้า นาฬิกาก็ต้องถอด ดังนั้นไม่ต้องพกมา ให้ดูที่จอเอา ซึ่งเราว่ามันเสียเวลาเยอะกว่า ต้องก้มๆ เงยๆ ไม่ชินอะ ใครเตรียมตัวสอบลองซ้อมดูนะ ไม่ต้องใส่นาฬิกาข้อมือ!!!

แล้วก็เดินไปลงทะเบียน แยกแถวตามเลขลำดับของเรา เสร็จแล้วก็ไปแสกนลายนิ้วมือพร้อมถ่ายรูป (ด้วยใบหน้าอันยับเยินจากความเกร็ง) ซึ่งรูปนี้จะติดมาในใบผลสอบ IELTS ของเราด้วย เสร็จแล้วก็เข้าห้องสอบได้

ใครมาถึงห้องสอบก่อนสามารถลองเอาหูฟังเอามาซ้อมฟังเล่นได้ ซึ่งหูฟังนี่จะติดกับเครื่องส่งสัญญาณไร้สาย แอบตื่นเต้นกับเทคโนโลยี อย่าลืม เปิดเครื่อง! และปรับช่องให้ตรงกับที่เขากำหน้ด (ปกติจะตั้งไว้ตรงแล้ว) เขาจะมีขึ้นวิธีใช้ไว้บนจอ ระหว่างรอสอบก็จะมีเทปของข้อสอบเก่าๆ ให้ฝึกฟังฝึกใช้เครื่องไป ส่วนใครเลือกสอบที่ IDP ปกติเขาจะไม่มีหูฟังให้นะ (จากที่เคยสอบแบบเดิม) เขาให้นั่งฟังรวมกันในห้องสอบ เปิดลำโพงเอา

พอใกล้เวลาเจ้าหน้าที่จะประกาศระเบียบการสอบ ระหว่างสอบก็ทำตามที่เขาบอกอย่างเคร่งครัด มีคนข้างๆ เขายังไม่บอกให้เขียนชื่อ ให้วางดินสอไว้ ดันหยิบดินสอมาเขียนชื่อ โดนกรรมการมียืนพูดด้วยเสียงดังกว่าเดิมแบบ 2 เท่าพร้อมสายตาจิกๆ แบบบริทิชขนานแท้ UU;; (และมีวิดีโอบันทึกภาพไว้ โอววว)

คือไฮไลท์ของการสอบ IELTS UKVI หรือรูปแบบใหม่นี้คือการที่มีวิดีโอบันทึกทุกขั้นตอน ประหนึ่งเราอยู่ในรายการเรียลลิตี้ ไม่ว่าจะบ้าน AF, American Next Top Model จิ้นกันตามสะดวก ถ่ายตั้งแต่เดินไปสแกนนิ้วอะ ดังนั้นอย่าคิดตุกติก จากแบบเดิมที่ก็เกร็งมากละนะ อันนี้ไม่กล้ากระดิกตัวเลย ตอนเขียนๆ พอเขาบอกให้วางดินสอเผลอโยนทิ้งเลยก็มี 5555

ข้อสอบก็เริ่มจากพาร์ทฟัง อ่าน แล้วก็เขียน เสร็จแล้วก็ดูสติกเกอร์ชื่อเราที่มุมโต๊ะว่าเราสอบพูดกี่โมง ดึงกลับไปด้วยเพราะต้องใช้เลขที่สอบตอนดูผลออนไลน์ หรือเอาไว้เป็น Reference กรณีมีปัญหา

สุดท้าย ผลคะแนน ส่งทางไปรษณีย์เท่านั้น! ไม่มีการรับเอง ใครรีบใช้นับวันเผื่อด้วย เราก็เพิ่งรู้วันสอบ

ทั้งหมดนี้คือจุดหลักๆ ที่คิดว่าน่าจะต่าง และสำคัญ เพราะเราไม่เคยสอบแบบเดิมของบริติช เคยแต่สอบของ IDP อาจจะตกหล่นไปบ้างก็ขออภัย ส่วนรายละเอียดเรื่องการสอบขอติดไว้บทความหน้า ก่อนที่จะเบื่อกันเสียก่อนจ้า ^^



2 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  2. ตอนนี้ถ้าจะไปอังกฤษต้องสอบแบบ UKVI ทั้งหมดแล้วค่ะ โดยสอบได้ทั้งสนามสอบ British Council และ IDP เลยนะคะ ใครอยากหาข้อมูลเพื่อเตรียมตัวสอบแบบนี้เพิ่มเติม ให้ลองเข้าไปที่เว็บหลัก IELTS UKVI ได้เลยค่ะ หรือหากต้องการข้อมูลการสอบ IELTS แบบ UKVI หรือ Lifeskills แบบแปลเป็นไทยเข้าใจง่าย ก็ไปที่ IELTS UKVI คืออะไร ได้เหมือนกันนะคะ

    ตอบลบ